เปิดที่มารายได้ “ยูทูบเบอร์” อาชีพนี้มีรายได้จากทางไหนบ้าง ต้องหักค่าใช้จ่ายต่อปีเท่าไร หากมีรายได้ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษีประเภทไหน มีวิธีการคำนวณอย่างไร
วันที่ 15 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบัน “ยูทูบเบอร์” เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่คนกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็นอาชีพอิสระ ได้ทำคอนเทนต์ที่ตนเองชื่นชอบ และสำหรับบางคนก็เรียกได้ว่า สามารถลืมตาอ้าปากได้เพราะอาชีพนี้เลย
ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 มีนาคม 2565
ผลสลากออมสินพิเศษ งวดวันที่ 16 มีนาคม 2565
อานิสงส์รัสเซีย-ยูเครน ราคาน้ำยางดิบนิวไฮรอบ 9 ปี
แต่แน่นอนว่า ทุกอาชีพที่มีรายได้ ต้องมีการเสียภาษี แล้วการเป็นยูทูบเบอร์ จะต้องเสียภาษีอะไรบ้าง และมีรายได้จากทางไหนนั้น “ประชาชาติธุรกิจ” สรุปข้อมูล พร้อมตัวอย่างการคำนวณการหักค่าใช้จ่ายจากรายได้ สำหรับผู้ที่กำลังจะเปิดช่องเป็นของตนเอง
ยูทูบเบอร์มีรายได้จากทางไหน
ยูทูบเบอร์ ถือเป็นอาชีพอิสระ และเป็นบุคคลตามมาตรา 40 เมื่อมีรายได้ จะต้องมีการหักค่าใช้จ่ายจากรายได้ดังกล่าว โดยหลัก ๆ แล้วยูทูบจะมีต้องมีการหักค่าใช้จ่ายจากเงินได้ประเภท 2 คือ ม.40 (2) และเงินได้ประเภท 8 คือ ม.40 (8) ซึ่งมีรายละเอียดการหักค่าใช้จ่าย ดังนี้
1. รายได้จาก Google Ad ส่วนแบ่งค่าโฆษณา : เป็นประเภทเงินได้ตามมาตรา 40 วรรค 2 จะถูกหักค่าใช้จ่าย แบบหักเหมา 50% แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
2. รายได้จากการรับจ้างรีวิวสินค้า : เป็นประเภทเงินได้ตามมาตรา 40 วรรค 2 จะถูกหักค่าใช้จ่าย แบบหักเหมา 50% แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
3. รายได้จากการโชว์ตัว ออกงานอีเวนต์ต่าง ๆ : เป็นประเภทเงินได้ตามมาตรา 40 วรรค 2 จะถูกหักค่าใช้จ่าย แบบหักเหมา 50% แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
4. รายได้จากการขายสินค้าออนไลน์ : เป็นประเภทเงินได้ตามมาตรา 40 วรรค 8 จะถูกหักค่าใช้จ่าย แบบหักเหมา 60% หรือหักตามจริง โดยยูทูบเบอร์สามารถเลือกได้ว่า จะให้หักค่าใช้จ่ายแบบไหน
5. รายได้จากงานอีเวนต์ พรีเซ็นเตอร์ หรือการแสดงที่มีลักษณะเป็น “นักแสดงสาธารณะ” : เป็นประเภทเงินได้ตามมาตรา 40 วรรค 8 โดยมีการหักค่าใช้จ่าย ได้แก่ ส่วนที่ไม่เกิน 300,000 บาท หัก 60% และส่วนที่เกิน 300,000 บาท หัก 40% โดยทั้ง 2 ส่วนรวมกันต้องไม่เกิน 600,000 บาท และการหักค่าใช้จ่ายตามจริง (มีหลักฐานค่าใช้จ่าย)
วิธีคำนวณหักค่าใช้จ่าย แบบเหมา 50%
การหักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 50% ของรายได้ทั้งหมด แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี มีตัวอย่างวิธีการคำนวณดังนี้
100,000 บาท (รายได้) x 50% (หักค่าใช้จ่าย) = 50,000 บาท (จำนวนเงินที่ถูกหัก)
50,000 บาท (รายได้) x 50% (หักค่าใช้จ่าย) = 25,000 บาท (จำนวนเงินที่ถูกหัก)
36,000 บาท (รายได้) x 50% (หักค่าใช้จ่าย) = 18,000 บาท (จำนวนเงินที่ถูกหัก)
เป็นทั้งยูทูบเบอร์ + พนักงานประจำ เสียภาษีเท่าไร
แต่ทั้งนี้ยังมีกรณีที่ยูทูบเบอร์มีรายได้จากงานประจำ (เงินเดือน) จะต้องนำรายได้จากทั้ง 2 ช่องทางมารวมกัน และคำนวณการหักค่าใช้จ่าย แต่จะถูกหักสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทเช่นกัน ดังนี้
100,000 บาท (รายได้ยูทูบเบอร์) + 100,000 บาท (เงินเดือนประจำ) x 50% (หักค่าใช้จ่าย) = 200,000 บาท (จำนวนเงินที่ถูกหัก)
จากนั้น นำ 200,000 บาท (จำนวนเงินที่ถูกหัก) – 100,000 บาท = 100,000 บาท (จำนวนเงินที่ถูกหักจริง)
วิธีคำนวณหักค่าใช้จ่าย แบบเหมา 60%
การหักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 60% หรือแบบหักตามจริง ของรายได้ทั้งหมด มีตัวอย่างวิธีการคำนวณดังนี้
200,000 บาท (รายได้) x 60% (หักค่าใช้จ่าย) = 120,000 บาท (จำนวนเงินที่ถูกหัก)
80,000 บาท (รายได้) x 60% (หักค่าใช้จ่าย) = 48,000 บาท (จำนวนเงินที่ถูกหัก)
กรณีที่เป็นการหักค่าใช้จ่ายตามจริง คือ การหักค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง ที่ยูทูบเบอร์ได้ใช้ไปกับการประกอบอาชีพ และต้องมีหลักฐานค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ยูทูบเบอร์ คำนวณการเสียภาษีอย่างไร
ผู้ที่เป็นยูทูบเบอร์ จะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และแม้ยูทูบเบอร์จะมีรายได้ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี แต่ยังคงต้องดูจากสถานภาพด้วยเช่นกัน ได้แก่ ผู้ที่มีสถานภาพโสด และผู้ที่มีคู่สมรส
สถานภาพโสด : ยูทูบเบอร์ที่มีสถานะโสดที่มีรายได้ไม่เกิน 60,000 บาทต่อปี
ผู้มีคู่สมรส : ยูทูบเบอร์ที่มีคู่สมรสแล้ว มีรายได้รวมกันไม่เกิน 120,000 บาทต่อปี
ทั้ง 2 สถานะ มีวิธีการคำนวณการเสียภาษี คือ นำรายได้สุทธิ (รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและลดหย่อน) x อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
แต่หากมีรายได้มากกว่า 120,000 บาทต่อปี (ไม่รวมเงินเดือน) ต้องใช้วิธีคำนวณ คือ รายได้ x 0.5% แล้วมาเปรียบเทียบกับวิธีคำนวณตามปกติ ซึ่งหากวิธีดังกล่าวมีภาษีเกิน 5,000 บาท ให้เสียภาษีตามวิธีที่สูงกว่า แต่หากไม่เกิน 5,000 บาท ให้เสียภาษีตามการคำนวณวิธีปกติ
ยูทูบเบอร์ ต้องเสียภาษีอะไรบ้าง
ภาษีครึ่งปี (ภ.ง.ด.94) : กำหนดยื่นภาษีตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 30 กันยายน ของปีนั้น ๆ โดยนำเงินได้ที่ไม่ใช้เงินได้ตามมาตรา 40 (1)(2) ตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน ของปีนั้น มารวมเพื่อคำนวณภาษี
ภาษีประจำปี (ภ.ง.ด.90) : กำหนดยื่นภาษีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม ของปีถัดไป โดยนำเงินได้ทุกประเภทตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม ของปีนั้น มารวมคำนวณภาษี และนำภาษีที่ชำระตาม ภ.ง.ด.94 มาเครดิตภาษีได้
ภาษีมูลค่าเพิ่ม : เมื่อมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการทั้งปีเกิน 1.8 ล้านบาท ให้ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่หรือยื่นผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th
ทั้งนี้ ยูทูบเบอร์ต้องยื่นภาษีปีละ 2 ครั้งตามไทม์ไลน์การเสียภาษีข้างต้น และต้องยื่นให้ถูกต้อง ตามเวลาที่กำหนด ไม่เช่นนั้นอาจถูกเรียกตรวจสอบย้อนหลังได้
อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance